WATCHMEN Original Motion Picture Score

บางทีการสะกิดเพียงเบาๆก็สามารถพังทลายทุกอย่างหายไปในพริบตาได้ ในยุค 80 คนที่ถูกเรียกว่า SuperHeroes เปรียบเสมือนคนบ้าหรืออาชญากรทีคอยปกป้องและดูแลประชาชน แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าใครละที่เป็นคนคอยปกป้องและดูแลพวกเค้า ทุกอย่างเริ่มต้นจากการตายของ The Comedian SuperHeroes สุดโฉดแห่งยุค หลายคนคิดว่าคนฆ่าคงจะเป็นฝีมือเหล่าร้ายที่เคยคิดแค้นมาก่อน แต่สำหรับ Rorschach กลับคิดว่ามันมีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่านั้นจึงแจ้งข่าวไปที่อดีตผู้ร่วมงาน 4 คนที่เหลือเพื่อหาความจริงจนพบว่า มันไม่ใช่แค่การฆาตรกรรมธรรมดาแต่มันคือการขู่ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการหยุดยั้งสงครามนิวเคลียร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และยิ่งสืบค้นหาความจริงมากเท่าใดทุกอย่างมันก็ยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิมเป็นทวีคูณเพราะ การสืบค้นหาความจริงครั้งนี่มันจะนำพาไปสู่ การเปิดโปงการทรยศ หักหลังสุดอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบุคคลภายใต้หน้ากากที่เรียกตัวเองว่า SuperHeroes

นี่คือเนื้อเรืองอันสุดยอดของ WATCHMEN นิยายภาพที่แม้แต่ Alan Moore คนเขียนเองก็กล้าพูดว่ามันไม่สามารถนำมาสร้างเป็นหนังได้เพราะเนื้อหาที่ไร้ซึ่งความ Hollywood และจุดจบที่สุดช็อค แต่แล้ว Zack Snyder ก็กล้าที่จะทำลายคำพูดประโยคนั้นแล้วหยิบนิยายภาพที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งมาทำเป็นภาพยนตร์แบบ ช็อตต่อช็อตเพื่อรักษาความเป็น WATCHMEN เอาไว้…โดยงานนี้ Zack ก็ยังคงเลือก Tyler Bates มารับหน้าที่คอมโพสเพลงให้หนังของเขาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ Tyler เลือกที่จะใช้ดนตรีเครื่องดนตรี Rock, Electronic และ ออเคสตร้า มาทำดนตรีประกอบสุดเข้มข้นนี้

อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าอัลบั้มนัเเป็นสวนผสมของดนตรีถึง 3 แนวทำให้ผลที่ได้ออกมาคือดนตรีที่แน่นและมีเอกลักษณ์ตั้งแต่ Track แรกอย่าง Rescue Mission เพลงเปิดอัลบั้มด้วยอารมณ์สุดระทึกกับดนตรีเร็วๆที่มาพร้อมกับ เสียงร้องประสานเสียง ที่ขาดไม่ได้คงเป็นดนตรีให้อารมณ์การสืบสวนอย่าง Tonight The Comedian Died และ Only Two Names Remain เลือกใช้เสียงสังเคราะห์และ Electronic บรรยากาศหลอนๆ คล้ายในผลงานนี้ที่ผ่านมาอย่าง 300 นิดๆ สำหรับเพลงเปิดตัวของ Hero สาวคนสวยของเรื่องอย่าง Silk Spectre ก็ทำออกมาได้สวยงามและเฉิดฉายสมกับเธอด้วยดนตรี ออเครตร้าเน้นเครื่องเป่าทองเหลือง You Quit! และ Edward Blake The Comedian เพลงอารมณ์แนวๆ Track โชว์โซโลกีต้าไฟฟ้าที่มีดนตรี Electronic เป็นพื้นหลังอยู่เบาๆ และแล้วก็มาถึง Track ที่สุดของความโดดเด่นอย่าง Prison Fight ที่ Tyler ได้โชว์ฝีมือการใช้ดนตรี Electronic อย่างเต็มที่ใส่ไม่ยั้งแทบทุกวินาที ตามมาด้วย Score หลอนๆต่อเนื่อง ที่ใส่ยาวมาเป็นชุดตั้งแต่ Dan’s Apocalyptic Dream ไปจนถึง I’ll Tell You About Rorschach แล้วตามมาด้วยดนตรีไขปริศนาชวนอึ้ง It Was Me และ All That Is Good แล้วเศร้าสุดโศกกันกับ Requiem ที่ใช้เสียงนร้องประสานเสียงได้อารมณ์นาซีเยอรมนีมานิดๆ ซึ่งตัดมาจากเพลงของ Mozart โม้มาซะยาวก็ใช้ว่าผมจะลืม Track เบาๆฟังสบายไปซะโดยเฉพาะเพลงปิดอัลบั้มอย่าง I Love You, Mom ที่เริ่มด้วยกีต้าโซโลเบาๆ ตามมาด้วยจังหวะกลองนุ่มๆสุดกลมกล่อมลดความตรึงเตลียดทีมีมาตลอดทั้งอัลบั้มและปิดอัลบั้มได้อย่างสวยงาม…

นี่คือผลงานระดับขึ้นหึ่งชิ้นนึงของ Tyler Bates ที่ยอดเยี่ยมและกลมกล่อมเกินคำบรรยายเหมาะสมกับสุดนอดภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายภาพแห่งยุคจริงๆครับ…

รายชื่อเพลง

1. Rescue Mission
2. Don’t Get Too Misty Eyed
3. Tonight the Comedian Died
4. Silk Spectre
5. We’ll Live Longer
6. You Quit!
7. Only Two Names Remain
8. American Dream
9. Edward Blake: The Comedian
10. Last Laugh
11. Prison Fight
12. Just Look Around You
13. Dan’s Apocalyptic Dream
14. Who Murdered Hollis Mason?
15. What About Janie Slater?
16. I’ll Tell You About Rorschach
17. Countdown
18. It Was Me
19. All That Is Good
20. Requiem (Excerpted from Mozart’s Requiem)
21. I Love You Mom